22.00  สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาท์เตอร์ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 พร้อมเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกเอกสารขึ้นเครื่องบิน

01.05  เหินฟ้าสู่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG970 (บินตรงสู่นครซูริค)

07.50  ถึงสนามบินซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังผ่านพิธีการด้านศุลกากรเรียบร้อยแล้วเดินทางสู่ เดินทางสู่เมืองสไตน์ อัม ไรน์ (Stein am Rhein) เมืองโบราณเล็กๆ มีแม่น้ำไรน์ไหลผ่านกลางเมือง มีถนนสายหลักเพียงสายเดียวอาคารบ้านเรือนปลูกสร้างมาแต่โบราณ โดยบางบ้านจะมีมุขหน้าต่างยื่นออกมา ผนังนอกบ้านมีการวาดภาพสีน้ำปูนเปียกเฟสโก้ เก็บภาพบรรยากาศอันน่าประทับใจของเมือง จากนั้นเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น เมืองที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย     หลังอาหารนำคณะถ่ายรูปกับ “อนุสาวรีย์สิงโต” อนุสรณ์รำลึกถึงการเสียชีวิต ของทหารสวิสฯผู้ถวายการอารักขาแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในสงครามปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส นำท่านเดินชมเมืองเก่าเดินข้าม “สะพานไม้คาเปล” ที่มีชื่อเสียงที่สุดของลูเซิร์น ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาคลุมตลอด ทอดตัวข้าม “ แม่น้ำรุซซ์” (Reuss) ซึ่งสร้างมากว่า 660 ปี จากนั้นเข้าสู่บริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง “ชวาเน่นท์พลัทซ์” ให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าขึ้นชื่อของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นานาชนิด อาทิ มีดพับสวิสฯ ช็อคโกแล็ต ของที่ละลึกต่างๆ และที่ท่านไม่ควรพลาดคือ นาฬิกายี่ห้อต่างๆ ที่มีชื่อเสียงของสวิสเซอร์แลนด์  สมควรแก่เวลา เดินทางสู่เมือง “เมืองอินเทอร์ลาเก้น” เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ เมืองตากอากาศ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ อิสระกับการเดินเล่นชมเมือง หรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย

ค่ำ       บริการอาหารมื้อค่ำ เมนูพิเศษ ! อาหารพื้นเมืองชาวสวิส "ฟองดู" (Fondue) ทั้งสามชนิด ชีส, เนื้อสัตว์, ช๊อคโกแล๊ต สัมผัสวัฒนธรรมแบบสวิตเซอร์แลนด์ ฟองดูชีส ปรุงโดยการนำเอาชีส มาตั้งไฟและหลอมละลายรวมกับไวน์ขาว   

ที่พัก : METROPOLE HOTEL, INTERLAKEN หรือที่พักระดับใกล้เคียง

*** กรณีที่ห้องพักในอินเทอร์ลาเค่นเต็ม หรือติดงานเทรดแฟร์ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดพักที่ใกล้เคียงแทน  

เช้า      บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ “หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนน” ชมวิว น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach Waterfall) ที่ไหลลงมาจากหน้าผาเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้ จากนั้นนั่ง รถไฟฟันเฟือง สู่ “ยอดเขาจุงเฟรา” ที่ได้ชื่อว่า “สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป” เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป เปลี่ยนขบวนรถไฟ (Cog Wheel) ณ “สถานีไคลน์ไชเด็ค” ขึ้นสู่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนถึง “สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป” ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น Top of Europe  ชม “ถ้ำน้ำแข็ง 1,000 ปี” ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ชมงานแกะสลักน้ำแข็งที่สวยงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร เก็บภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ 

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา

บ่าย     นำท่านเดินทางลงเขาด้วยรถไฟ ฟันเฟืองสู่สถานีไอเกอร์ (Eiger) นำ  ท่านโดยสารกระเช้าชมวิวเทือกเขาแอล์ป (THE V-CABLEWAY) ลงสู่สถานีกริลเดลวาล์ว เดินทางสู่ “เมืองซาฟเฮาส์เซ่น” Schaffhausen เมืองชายแดนเยอรมัน-สวิสฯ ซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์ไหลผ่านหน้าผาสูงชันที่เมืองซาฟเฮาส์เซ่นเกิดเป็น “น้ำตกไรน์ที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลาง” ชมความตระการตาของสายน้ำตก พร้อมบันทึกภาพอันน่าประทับใจไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่ เมือลเล็กๆ ในพื้นที่กลางป่าดำ หรือ BLACK FOREST ปกคลุมไปด้วยป่าสนยืนต้นนับหมื่นไร่ของประเทศเยอรมนี โดยมี ทะเลสาบทิทิเช่ ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา และทิวป่าสนที่ยืนต้นปกคลุมไปทั่ว ทิทิเช่ ยังเป็นต้นกำเนิดของ "นาฬิกากุ๊กกู" ที่มีชื่อเสียง

ค่ำ       บริการอาหารเย็ฯ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก: HOTEL HOFGUT STERNEN หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า      บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านล่องเรือชมทะเลสาบทิทิเซ่  (***การล่องเรือเป็นรายการแถมพิเศษ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดการล่องเรือในช่วงฤดูหนาวและเนื่องมาจากสภาพลม ฟ้า อากาศ ไม่เอื้ออำนวย หรือเป็นช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ทางบริษัทจะชดเชยโดยการเลี้ยงเครื่องดื่มมื้อเที่ยงแทน)ให้ท่านได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ชม ธรรมชาติที่สวยงามริมทะเลสาบและหมู่บ้านทิทิเซ่ที่เป็นแหล่งพักผ่อนตากอากาศชื่อดังของเยอรมนีจากนั้นนำท่านชมนาฬิกากุ๊กกู

สินค้าพื้นเมือง หรือเพลิดเพลินกับการเดินเลือกซื้อนาฬิกากุ๊กกู และงานไม้แกะสลัก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเยอรมันตอนใต้ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของชาวป่าดำ จากนั้นเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ (Colmar) เมืองเก่าแก่ในประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นดินแดนแห่งความโรแมนติคและได้รับการขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิส” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส เป็นชายแดนที่ติดกับประเทศเยอรมันและประเทศสวิสเซอร์แลนด์

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย     เดินเล่นย่าน La Petite Venise หรือ Little Venice ซึ่งมีหมู่บ้านอันแสนน่ารักตั้งเรียงรายขนานกันไปกับลำคลองเล็กๆ ของแม่น้ำในหมู่บ้าน และมวลหมู่ดอกไม้แสนสวยที่คนในหมู่บ้านได้ร่วมใจกันปลูกอย่างสวยงาม ชมอาคาร Maison Pfister เป็นหอคอยไม้รูปทรงแปดเหลี่ยมอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเก่ากอลมาร์ อิสระเดินเล่นหรือ ช้อปปิ้งย่านถนนช้อปปิ้ง Rue des Clefs ตามอัธยาศัย

จากนั้นเดินทางสู่เมืองดิจอง เมืองหลวงของแคว้นเบอร์กันดี พื้นที่ผลิตไวน์ชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของฝรั่งเศส  

ค่ำ       บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก: MERCURE DIJON CENTRE CLEMENCEAU หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า      บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

หลังอาหารเดินทางสู่กรุงปารีส  เมืองหลวงของฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ในแง่ของการท่องเที่ยว ปารีสเป็นเมืองที่มีผู้เข้าชมมากเป็นอันดับสองในยุโรปรองจากลอนดอน ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซนน์ ทางตอนเหนือของประเทศ ในใจกลางของภูมิภาคแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์  (Île-de-France) หรือที่เรียกว่า "ภูมิภาคปารีส" (Région Parisienne)  

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย     หลังอาหารนำท่าน ชมลานประวัติศาสตร์ “จัตุรัสคองคอร์ด” Place de la Concorde ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต  ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส  ให้ท่านได้ถ่ายภาพคู่กับ “หอไอเฟล” สัญลักษณ์อันโดดเด่นของมหานครปารีส บริเวณ “จัตุรัสทรอคาเดโร” ชม “ ประตูชัย”  Arc de Triomphe สัญลักษณ์แห่งชัยชนะที่จักรพรรดินโปเลียนให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.180 ตั้งอยู่บนนถนนแห่งแฟชั่น “ชองเอลิเซ่” (Champs-Elysees)

ค่ำ       บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

ที่พัก: MERCURE HOTEL PARIS / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า      บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

หลังอาหารเดินทางต่อสู่ “มองต์แซงมิเชล” (Mont Saint Michel) เกาะหินและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงนอกชายฝั่งนอร์มังดี เกาะเกือบจะเป็นวงกลม มีเส้นรอบวงประมาณ 3,000 ฟุต หรือ 900 เมตร รอบๆ ฐานเป็นกำแพงและหอคอยยุคกลางล้อมรอบหมู่อาคารของหมู่บ้าน โดยมีโบสถ์โบราณตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขาปัจจุบันนี้มง-แซ็ง-มิแชล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเข้าชมมากกว่าปีละ 3 ล้านคน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการเยี่ยมชมมากที่่สุดเป็นอันดับ 3 ในฝรั่งเศสรองจาก หอไอเฟล และพระราชวังแวร์ซาย

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย     หลังอาหารนำท่านชมเกาะมองต์แซงมิเชล” Mont Saint Michel เมืองปราสาทแสนสวยที่อยู่บนเกาะกลางทะเล เก็บบรรยากาศอันแสนโรแมนติคและความประทับใจ ชม “โบสถ์ มองแซงมิเชล” วิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยว กลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณแคว้นนอร์มองดีของประเทศฝรั่งเศส ปี 1979 องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้มง-แซ็ง-มิแชล เป็นมรดกโลกทั้งทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และความสวยงามตามธรรมชาติ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลา เดินทางเข้าสู่เมืองก็อง เมืองเก่าที่ก่อตั้งโดยพระเจ้าวิลเลียมผู้พิชิตในศตวรรษที่ 11 เป็นหนึ่งในเมืองมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส คึกคักไปด้วยกิจกรรม เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาและน่าดึงดูดใจริมแม่น้ำ Orne ที่เต็มไปด้วยงานศิลปะและร้านบูติกแฟชั่นที่สวยงามควบคู่ไปกับตลาดชั้นเลิศที่ขายไวน์ชั้นดี

ค่ำ      บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

ที่พัก: MERCURE HOTEL CAEN COTE DE NACRE / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า      บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

หลังอาหารเดินทางกลับเข้าสู่  “พระราชวังแวร์ซายย์”  ตั้งอยู่ในแคว้น Île-de-France ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส เป็นที่ประทับที่สำคัญของกษัตริย์ฝรั่งเศสตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ถึงพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ประดับประดาโดยสถาปนิก ประติมากร มัณฑนากร และภูมิสถาปนิกหลายชั่วอายุคน ทำให้ยุโรปมีต้นแบบที่ประทับของราชวงศ์ในอุดมคติมาเป็นเวลากว่าศตวรรษ

จัดเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน เพราะความสวยงามใหญ่โตของตัวปราสาท และสวนดอกไม้ที่มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม  

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

บ่าย     นำท่านเข้าชมความสวยงามภายใน (ไกด์ประจำพระราชวังคอยบรรยายตามจุดต่างที่สำคัญๆ ของพระราชวัง) ชื่นชมห้องอันหรูหรา คอลเล็กชันงานศิลปะ และสวนที่สวยงาม แวร์ซายยังทำหน้าที่เป็นอาคารประวัติศาสตร์ของชาติ ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมของรัฐสภาฝรั่งเศสในสภาคองเกรส นำท่านชมห้องต่างๆ ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงตามชื่อเทพเจ้าต่างๆ อาทิเช่น ห้องเฮอคิวลิส, ห้องวีนัส, ห้องนโปเลียน, ห้องอพอลโล, ฮอลล์ออฟมิเรอร์ Hall of Mirrors จากนั้นกลับเข้าสู่กรุงปารีส นำท่านล่องเรือไปตามแม่น้ำแซน ผ่านสถานที่สำคัญ โบราณสถานและอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรอเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสร้างภาพให้ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่งของโลก อาทิเช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ศาลาว่าการ โอเต็ลเดอวิลส์ เกาะเซ็นต์หลุยส์ โบสถ์นอร์ทเตรอดาม พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ แซงวาลี้ด พระราชวังบูร์บ็อง สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ฯลฯ.

ค่ำ       บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ที่พัก: MERCURE HOTEL PARIS / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า      บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

หลังอาหารนำท่านเก็บภาพด้านนอกของ “พิพิธภัณฑ์ลูฟร์” บริเวณประตูทางเข้าตรงกลางครอบไว้ด้วยปิรามิดกระจก ซึ่งเพิ่งก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นมาในปี ค.ศ.1989 พิพิธภัณฑ์ลูฟร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ต่อมาเมื่อราชสำนักย้ายไปที่ แวร์ซายส์ก็ได้กลายเป็นพิธภัณฑ์ จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีที่ Benlux Duty Free อิสระกับการ ช้อปปิ้งสินค้าตามรสนิยมแบรนด์ชื่อดังนานาชนิด อาทิ น้ำหอม เสื้อผ้า กระเป๋า

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย     หลังอาหารนำท่านเข้าสู่ห้างสรรพสินค้า แกลลารี-ลาฟาแยตต์ (Galerie Lafayette) ใหญ่ที่สุดในปารีส มีเวลาให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าตามรสนิยม ตั้งแต่สินค้าที่เข้าถึงได้มากที่สุดไปจนถึงระดับหรูหรา จัดแสดงผ่านแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุด แบรนด์ที่พิเศษที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุด ที่เต็มไปด้วยแบรนด์ชื่อดังนานาชนิด อาทิ น้ำหอม เสื้อผ้า กระเป๋า กระเป๋าเดินทาง เครื่องสำอาง

ค่ำ       บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก: MERCURE HOTEL PARIS / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

เช้า      บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

พร้อมกัน ณ จุดนัดหมายเพื่อออกเดินทางสู่สนามบิน (กรุณาตรงต่อเวลานัดหมาย)เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน อาหารกลางวันอิสระตามอัธยาศัย        

13.30   ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG931

05.30  เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ