23.30 สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q สายการบินเอมิเรตส์ Emirates โดยมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวก
02.00 เหิรฟ้าสู่สนามบินกรุงดูไบ โดยสายการบินเอมิเรสต์ Emirates เที่ยวบินที่ EK377
06.00 ถึงสนามบินกรุงดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.05 เหิรฟ้าสู่กรุงมิลาน...ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK205
13.10 เดินทางถึงกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว / นำท่านเข้าชมเมืองมิลาน (Milan) ชม “ปราสาทสฟอร์เซสโก้” ปราสาทสวยงามหลังนี้ได้เคยเป็นป้อมปราการของพวกตระกูลวิสคอนติ ต่อมาเป็นที่พำนักของผู้นำเผด็จการในช่วงศตวรรษที่ 15 คือ ตระกูลสฟอร์ซา มีเวลาให้ท่านได้ถ่ายภาพกับมุมสวยๆ ของน้ำพุที่โพยพุ่งบริเวณด้านหน้าปราสาทสฟอร์เซสโก้ นำท่านเก็บภาพ “มหาวิหารแห่งมิลาน หรือดูโอโม” สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมือง อันมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวในศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาสร้างนานกว่า 500 ปี ปัจจุบันเป็น “โบสถ์แคธอลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก” ลานด้านหน้าเป็นที่ตั้งของพระราชานุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 ทรงม้า รายล้อมด้วยอาคารที่เก่าแก่คลาสสิคและช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก / อิสระทุกท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองเจนัว(Genoa)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรมที่พัก
10.00 นำท่านเช็ค-อินลงเรือสำราญ MSC WORLD EUROPA CRUISE
*** กรุณาเตรียมพาสปอร์ต และเอกสารวีซ่า ***
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ภายในเรือสำราญ
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมายกิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น Public Room: บาร์และเลาจน์ ห้องสมุด Entertainment: ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆหลากหลาย Sport and Activities: สระว่ายน้ำ สปอร์ท คอร์ท ฟิตเนต มินิกอล์ฟ Spa and Wellness :ห้องสปา ห้องสตรีม บิวตี้ ซาลอน โยคะ และอื่นๆ อีกมากมาย
16.00 เรือสำราญเดินทางออกจากท่าเทียบเรือเจนัว มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือเมืองเนเปิ้ล ประเทศอิตาลี
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ // หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
13.00 เรือจอดเทียบท่าที่เมืองเนเปิ้ลส์ ประเทศอิตาลี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมายกิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น Public Room: บาร์และเลาจน์ ห้องสมุด Entertainment: ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆหลากหลาย Sport and Activities: สระว่ายน้ำ สปอร์ท คอร์ท ฟิตเนต มินิกอล์ฟ Spa and Wellness :ห้องสปา ห้องสตรีม บิวตี้ ซาลอน โยคะ และอื่นๆ อีกมากมาย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ภายในเรือสำราญ
13.00 นำท่านขึ้นฝั่งเมืองเนเปิ้ลส์ เมืองเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนาน เป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลีมาตลอด 2,800 ปี ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลี กึ่งกลางระหว่างพื้นที่ภูเขาไฟสองแห่ง คือ ภูเขาไฟวิสุเวียส และกัมปีเฟลเกรย์ ผ่านย่านท่าเรือ ปราสาทเดลโลโว สร้างในสมัยวิลเลียมที่ 1 แห่งอองจู และต่อเติมใหม่ในปีค.ศ.1532 ชมศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเนเปิลส์นั้นใหญ่ที่สุดในยุโรป ในปี 1995 ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ตัวเมืองจะเป็นถนนแคบๆ โบสถ์โบราณ ภูมิทัศน์ใต้ดินอันเป็นเอกลักษณ์ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเนเปิลส์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในยุโรป
นำท่านเข้าชม “เมืองปอมเปอี” นำชมเมือง โบราณ 2,000 ปี ที่ถูกทำลายโดยลาวาของภูเขาไฟวิโซเวียส ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดเอาดินโคลนเถ้าถ่าน และหินละลายทับถมจมลงไปในดินในชั่วเวลาไม่กี่นาทีเมื่อ พ.ศ.662 ปอมเปอี ก็ถูกลืมไปจากความทรงจำของชาวโลกต่อมาได้มีการฟื้นฟูศึกษาประวัติศาสตร์โบราณชื่อปอมเปอีจึงถูกค้นพบแต่ไม่มีใครทราบว่าอยู่ที่ไหน จนกระทั่ง พ.ศ.2291 ได้พบร่องรอยของซากเมือง เมื่อรื้อดินที่ทับถมออกมาหมดแล้วก็พบซากเมืองที่ใหญ่โต และสร้างด้วยหินอย่างแข็งแรง บางแห่งพบ “ ซากชาวปอมเปเอียน และสัตว์เลี้ยงของเขาที่ตายกลายเป็นหินยังคงสภาพเดิมทุกประการ ” แต่ทว่าภาพนั้นจะเห็นลักษณะของความหวาดกลัวต่อความตายได้เป็นอย่างดีบางคนนั่งเอามือปิดหน้าตายบางคนนั่งซบกับกำแพงบ้านตายก็มี ปอมเปอีจึงได้ชื่อว่า “ซากเมืองแห่งความตาย”
18.00 นำท่านกลับสู่ท่าเทียบเรือเนเปิ้ลส์ ประเทศอิตาลี
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ // หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
20.00 เรือเดินทางออกจากท่าเรือเนเปิ้ลส์ เพื่อมุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือท่าเรือเมสสิน่า, ประเทศอิตาลี
09.00 เรือเข้าเทียบท่า ณ ท่าเรือเมสสิน่า (Messina) เกาะซิซิลี
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 นำท่านออกเดินทางสู่ที่ตั้งของภูเขาไฟเอ็ดน่า ภูเขาไฟที่เพิ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2013 ภูเขาไฟ Etna นับเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีการปะทุบ่อยครั้ง และมีความสูงที่สุดของยุโรปอีกด้วยนั่นทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเก็บภาพยามควันไฟปะทุ ลอยสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นได้อย่างง่ายดาย นำท่านชมภูเขาไฟเอ็ดน่า (Mount Etna) เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป มีความสูงประมาณ 3,340 เมตร วัดฐานโดยรอบได้ 150 เมตร เป็นที่รู้จักกันในภาษาท้องถิ่นว่า “ปล่องไฟแห่งซิซิลี” ในหน้าหนาวท่านจะเห็นหิมะปกคลุมอยู่บนยอดเขา ตามประวัติมีบันทึกไว้ว่าภูเขาเอ็ดน่าเกิดการปะทุขึ้นครั้งแรกในปี 396 ก่อนคริสตกาล ท่านจะได้เห็นซากลาวาและเถ้าถ่านของภูเขาไฟ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านขึ้นรถกระเช้า Cable Car ขึ้นสู่ความสูงประมาณ 2,500 เมตร เพื่อไปสู่จุดชมวิว ที่ท่านจะสามารถเห็นทิวทัศน์และบันทึกภาพของภูเขาไฟเอ็ดน่าได้อย่างชัดเจน ท่านสามารถชมภาพเหตุการณ์ที่ภูเขาไฟ ระเบิดเมื่อ ค.ศ.2006 สนุกสนานกับการนั่งรถจิ๊ปพิเศษ ขึ้นภูเขาเอ็ดน่า ที่ความสูง 2,950 เมตร มีหิมะปกครุมตลอดทั้งปี ชมความมหัศจรรย์ของวิวทิวทัศน์หนึ่งเดียวในยุโรป ที่ Mt.Etna บนเกาะซิซิลี
17.00 นำท่านกลับสู่ท่าเทียบเรือเมืองเมสสิน่า, ประเทศอิตาลี
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ // หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
19.00 เรือเดินทางออกจากท่าเรือเมสซิน่า ประเทศอิตาลี เพื่อมุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือวัลเลตต้า, ประเทศมอลต้า
08.00 เรือสำราญเข้าเทียบท่าเรือ ณ ท่าเรือเมืองวัลเลตต้า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.30 นำท่านเที่ยวชมเมืองวัลเลตต้า ประเทศมอลต้า เมืองที่ได้มีสร้างกำแพงป้อมปราการโอบล้อมโดยรอบ นำท่านแวะถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ป้อมปราการโบราณ, โบสถ์ประจำเมือง, ศาลาว่าการเมือง และท่าเรือเมืองเก่า นำท่านชมเมืองหลวงของสาธารณรัฐมอลต้า ซึ่งได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อของ Jean Parisot De La Valetta ผู้ซึ่งสามารถป้องกันการรุกรานเกาะมอลต้า จากอาณาจักรออตโตมานในปี ค.ศ.1565 เมืองวัลเลตตาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1980 เก็บภาพบริเวณสวนบารัคคา (Barracca Garden) ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน นำท่านเก็บภาพความสวยงามของจตุรัสวิหารเซนต์ จอห์น สร้างโดยอัศวิน เซนต์จอห์น เพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือการ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกและศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16 เก็บภาพปราสาทโอเบอร์ (Auberge de Castille) อาคารที่มีความสง่างามและใหญ่โตที่สุดแห่งหนึ่ง ในเมืองวัลเลตตา ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของคาบสมุทร
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในเรือสำราญ
16.00 นำท่านกลับสู่ท่าเทียบเรือเมืองวัลเลตต้า, ประเทศมอลต้า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ // หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
17.00 เรือเดินทางออกจากท่าเรือเมืองวัลเลตต้า, ประเทศมอลต้า เพื่อมุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือบาร์เซโลน่า,ประเทศสเปน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมายกิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น Public Room :บาร์และเลาจน์ ห้องสมุด ห้องอินเตอร์เนต Entertainment :ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆหลากหลาย Sport and Activities :สระว่ายน้ำ สปอร์ท คอร์ท ฟิตเนต มินิกอล์ฟ Spa and Wellness :ห้องสปา ห้องสตรีม บิวตี้ ซาลอน โยคะ และอื่นๆ อีกมากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 เรือสำราญเข้าเทียบท่าเรือ ณ ท่าเรือเมืองบาร์เซโลน่า(สเปน)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 นำท่านขึ้นฝั่งชมความงามของเมืองบาร์เซโลน่า(สเปน) แวะบันทึกภาพกับ สนามกีฬาโอลิมปิค 1992 และชมทิวทัศน์รอบตัวเมืองบนยอดเขา “มองต์จูอิค”Mont Juic จากนั้นผ่านชม อนุสาวรีย์ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ที่ออกเดินทางจากกรุงบาร์เซโลนา ไปพบหมู่เกาะแคริบเบียนและทวีปอเมริกาในปี ค.ศ.1492 นำท่านบันทึกภาพกับมหาวิหารซากราด้า ฟาอมิเลียร์ (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1882 เป็นผลงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ นำทุกท่านนำท่านเก็บภาพบริเวณด้านหน้าตึกประหลาด คาซา มิลา (Casa Mila) (ชมภายนอก) อาคารอพาร์ทเม้นท์ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ Gaudi สถาปัตยกรรมที่แสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างเกาดิกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับผลงานทั้งหมดของเขาซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางบาร์เซโลนา สร้างมาตั้งแต่ปี 1906 – 1912 เป็นอพาร์ทเม้นท์หลังสุดท้ายที่ออกแบบโดยเกาดี
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
จากนั้นเข้าสู่ “ถนน ลา รัมบลา” La Rambla ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัยถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง 1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจ
16.00 นำท่านกลับสู่ท่าเทียบเรือเมืองบาร์เซโลน่า, ประเทศสเปน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ // หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
07.00 เรือจอดเทียบท่าที่ ท่าเทียบเรือ เมืองมาร์เซย, ฝรั่งเศส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.30 นำท่านชมเมือง ‘มาร์เซย์’ (Marseille) เมืองท่าที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองชายหาดริเวียร่าที่งดงาม ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประตูเมดิเตอร์เรเนียนของฝรั่งเศส มาร์เซย์เป็นที่รู้จักในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างแอฟริกาเหนือและยุโรป เป็นเมืองที่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์ด้วยน้ำทะเลสีฟ้าสวยงามและเมืองเก่าที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ชมย่าน ท่าเรือ Vieux ที่มีชีวิตชีวา ล้อมรอบไปด้วยอาคาร
เก่าแก่และเต็มไปด้วยเรือประมง ให้ความรู้สึกราวกับว่าหยุดนิ่งอยู่ในกาลเวลา และควรเป็น Old Port of Marseille มีอายุย้อนไปถึง 600 ปีก่อนคริสตกาล ที่มีป้อมปราการเก่าแก่ตั้งตระหง่านที่ริมน้ำ และมหาวิหารบนยอดเขา และคาเฟ่เรียบๆ ที่เรียงรายอยู่ตามถนน
*** รวมค่ารถ Transfer จากท่าเรือไปดาวน์ทาวน์มารร์เซย์ 1 รอบ ***
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในเรือสำราญ
17.00 นำท่านกลับสู่เรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ // หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
18.00 เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือ มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือเจนัว ประเทศอิตาลี
08.00 เรือจอดเทียบท่าที่เมืองเจนัว ประเทศอิตาลี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.30 จากนั้นนำท่านสู่ Designer Outlet Serravalle เชิญท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำมากมาย อาทิ Armani, Burberry, Calvin Klein, Coach, Escada, Gucci, Guess, Hugo Boss, Kipling, L’Occitane, Levi’s Lacoste, Loewe, Michael Kors, Nike, Polo, Puma, Ray-Ban, Samsonite, Superdry, Swarovski, Tag Heuer, Tommy Hilfiger, The North Face, Timberland, Tumi, Versace, Zegna ฯลฯ
16.00 นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินมิลาน / นำคณะเช็คอิน และทำ TAX REFUNED
20.40 เหิรฟ้ากลับสู่สนามบินกรุงดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ Emirates เที่ยวบินที่ EK188
05.35 เดินทางถึงสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเนรสต์ รอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 เหิรฟ้ากลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรสต์ เที่ยวบินที่ EK372
18.55 เดินทางถึงกรุงเทพฯ...โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
07 มิ.ย. 67 - 17 มิ.ย. 67 | 132,900 บาท | 39,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
20 ก.ย. 67 - 30 ก.ย. 67 | 132,900 บาท | 39,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
04 ต.ค. 67 - 14 ต.ค. 67 | 129,900 บาท | 37,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
18 ต.ค. 67 - 28 ต.ค. 67 | 129,900 บาท | 37,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
188/6 ซอยลาดพร้าว 122 (มหาดไทย1) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310