04.30 น. พร้อมกัน ณ เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน TURKISH AIRLINES อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ  สนามบินสุวรรณภูมิโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางทำผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกนอกประเทศ

07.40 น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เที่ยวบินที่ TK 59 (ใช้เวลาบิน 10.25 ชั่วโมง)

14.00 น. เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)

15.20 น.ออกเดินทางสู่กรุงตูนิส (TUN) ประเทศตูนิเซีย เที่ยวบินที่ TK663

16.15 น. เดินทางถึงกรุงตูนิส ประเทศตูนิเซีย กรุงตูนิส (Tunis) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของตูนิเซีย ดินแดนตอนบนสุดของทวีปแอฟริกาเหนือตั้งอยู่ในเขตอ่าวตูนิส ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในอดีตเป็นพื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำของอาณาจักรโรมัน ตูนิส แปลว่า แหลม ในภาษาเบอร์เบอร์ ซึ่งเรียกตามสภาพภูมิประเทศที่เป็นลักษณะแหลมยื่นเข้าไปในทะเล นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Marriott Tunis Hotel 5* หรือเทียบเท่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านชมพิพิธภัณฑ์บาร์โด (Bardo Museum) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 อดีตเป็นพระราชวังเก่าของบีย์ (Bey) หรือเจ้าผู้ครองนคร ที่ไม่เพียงสะท้อนความงามทางสถาปัตยกรรมอาหรับ หากยังเป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์จากยุคกรีก-โรมัน สู่ยุคไบแซนไทน์ จนถึงยุคอิสลาม และวิถีชีวิตของชาวตูนิเซียน ผ่านโบราณวัตถุโดยเฉพาะงานแกะสลักหิน และโรมันโมเสกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด สวยที่สุด และสมบูรณ์ที่สุดในโลก  นำท่านชมซิดิ บู ซาอิด (Sidi Bou Said) หมู่บ้านชาวมัวร์ หมู่บ้านสีฟ้าและสีขาว โดยเมืองแห่งนี้ได้รับสมญานามว่าเป็น เมืองที่โรแมนติกที่สุดในประเทศตูนิเซีย เป็นย่านท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมที่ทำให้เมืองตูนิสเป็นที่รู้จักก้องโลกว่า ดินแดงสวรรค์แห่งเมืองฟ้าขาว มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลและอารยธรรมแบบแขกมัวร์ ด้วยศิลปะการสร้างอาคารบ้านเรือนในโทนสีฟ้า และสีขาว ลดหลั่นขึ้นไปตามเนินเขา ตลอดสองข้างทางบนถนนสายหลักที่ทอดขึ้นสู่ยอดเขา เรียงรายด้วยหมู่บ้าน และร้านขายสินค้าที่ระลึก ของแต่งบ้านสไตล์พื้นเมือง เครื่องประดับเงิน และงานศิลปะต่าง ๆ เมื่อเดินขึ้นมาถึงยอดเขา คุณจะได้พบกับทิวทัศน์อันงดงามของอ่าวตูนิส ทะเลสีฟ้าคราม ตัดกับกำแพงปูนเปลือยขาวสะอาด และประตูสีฟ้าสดที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของซิดิ บู ซาอิด

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เมืองไครูอาน (Kairouan) ไครวน หรือคารวาน (Karwan) ในภาษาเปอร์เซีย อดีตเมืองหลวงเมืองมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของมุสลิมมาตั้งแต่ ศตวรรษที่ 7 เมืองสำคัญด้านศาสนาศูนย์กลางการค้างานฝีมือต่าง ๆ มีมัสยิดจำนวนมากจนได้รับสมญานามว่า “City of 50 Mosque”

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม CONTINENTAL Hotel 5*หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมสุเหร่าใหญ่ (The Great Mosque) หรือ สุเหร่าซิดี อักบาร์ (Mosque of Sidi Okba) สุเหร่าขนาดใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปแอฟริกาเหนือ ด้วยมีสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานทั้งโรมัน ฟินิกซ์ และ อารบิก สร้างโดยการใช้หินจากวิหารของโรมันและโบสถ์ ไบเซนไทน์ โดยภายในแบ่งออกเป็นส่วน ๆ อาทิ ห้องสวดมนต์ ห้องเก็บน้ำ หอคอยที่มีอายุมากกว่าพันปี อีกทั้งยังมีลานกว้างเกือบเท่าสนามฟุตบอล นำท่านชมสุเหร่า ซิดี ซาฮาบ หรือ สุเหร่าเบอร์เบอร์ (Mosque of The Barber) สุสานของ อาบู ซัมมา เอล บาลาวี (Abou Xammaa El Balaoui) ผู้ติดตาม นบีโมฮัมหมัด ศาสดาของศาสนาอิสลาม ที่เชื่อว่าสถานที่แห่งนี้ภายในเป็นสถานที่เก็บเส้นเครา 3 เส้นของท่านนบีโมฮัมหมัด จึงจัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิที่นิยมมาแสวงบุญ นำท่านชมอ่างเก็บน้ำอักห์ลาไบท์ (Aghlabite) สร้างขึ้นโดยผู้นำชาว Aghlabite ในยุคกลาง (ศตวรรษที่ 9) สิ่งประดิษฐ์ด้านวิศวกรรมไฮโดรลิค อ่างเก็บน้ำที่แบ่งออกเป็นสองสระโดยสระหนึ่งใช้ในการเก็บน้ำฝน ส่วนอีกสระใช้ตกตะกอนน้ำเพื่อให้ได้น้ำที่สะอาดอีกทั้งช่วยสำรองน้ำยามแล้งอีกด้วย

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เมืองโทรเซอร์ (Tozeur) เมืองในภาคใต้ของตูนิเซีย ในอดีตโทเซอร์ เป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของโรมัน สำหรับตรวจตรากองการค้าคาราวาน รวมถึงเป็นถิ่นที่อยู่ของชนเผ่าเร่ร่อน หรือเบอร์เบอร์ ที่ปัจจุบันหันมายึดอาชีพไกด์ และขี่อูฐนำเที่ยวในทะเลทราย โอเอซิสสำคัญในโทเซอร์

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Tui Magic Hotel Palm Beach Palace 5* หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านนั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อ (Jeep 4 wheels Drive) สู่โอเอซิส 3 แห่ง ได้แก่ เชบิกา (Chebika), ทาเมอร์ซา (Temerza) และ ไมเดส (Mides) นำท่านชมเชบิกา (Chebika) หรือปราสาทแห่งดวงอาทิตย์ งดงามด้วยสันเขา โตรกธาร ที่มีน้ำตกเล็ก ๆ ไหลลงสู่ผืนน้ำสีมรกต เป็นโอเอซิสภูเขาใต้ร่มเงาของต้นปาล์มและอินทผลัมซึ่งขึ้นอย่างหนาแน่น รวมทั้งยังเคยเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ Star War Episode IV อีกด้วย นำท่านชมทาเมอร์ซา (Temerza) โอเอซิสขนาดใหญ่ที่สุด เต็มไปด้วยแนวหุบเขาลึกตระการตา โดดเด่นด้วยหินผาสีอมชมพู อีกทั้งมีน้ำตกสองสายไหลลงสู่ธารน้ำขนาดใหญ่ บริเวณเชิงเขารอบนอกเป็นเขตเมืองเก่าทาเมอร์ซา ซึ่งยังหลงเหลือหมู่อาคารอิฐยุคดั้งเดิมของชาวเมืองเขตทะเลทราย จากนั้นนำท่านชมไมเดส (Mides) อีกหนึ่งโอเอซิสมีความอลังการของแนวผาหิน 2 ลูก ทอดขนานคดเคี้ยวเป็นทางยาวราว 3 กิโลเมตร และเช่นเดียวกับทาเมอร์ซา ชุมชนที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ต่างทิ้งเมืองไปตั้งถิ่นฐานใหม่เนื่องจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในปีค.ศ.1969

บ่าย บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เมืองดูซ (Douz) ได้รับสมญาว่า “ประตูสู่ทะเลทรายซาฮาร่า” ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ พื้นที่ประกอบด้วยโอเอซิสปาล์มขนาดใหญ่ริมทะเลทราย และมีตลาดขายสินค้าพื้นเมือง ผลไม้ อาหารแห้ง เครื่องเทศ ฯลฯ ระหว่างทางสู่เมืองดูซ แวะชมทิวทัศน์ทะเลสาบเกลือ “Chott El Jerid” กลางทะเลทราย มีพื้นที่ถึง 5,000 ตารางกิโลเมตร เมื่อหลายพันปีก่อน บริเวณนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ จึงเกิดการตกผลึกเป็นเกลือฝังลึกลงใต้พื้นผิว อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ และเมื่อถึงเมืองดูซ ท่านสามารถขี่อูฐชมความงามของทะเลทรายซาฮาร่าได้อีกด้วย **(หมายเหตุ ค่าขี่อูฐนี้ไม่รวมอยู่ในรายการทัวร์  ท่านใดสนใจติดต่อสอบถามได้จากหัวหน้าทัวร์)**

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Sahara Hotel 4* หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองแมทมาทา (Matmata) เมืองดาวเด่นแห่งภาคใต้ เป็นเมืองขนาดเล็ก เมืองที่เกิดจากการเจาะหินหรือขุดหลุมขนาดใหญ่ใต้ดินเพื่ออยู่อาศัย เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเบอร์เบอร์แบบดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์ที่สุด ด้วยการขุดหลุมขนาดใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยใต้ดินลึกลงไปราว 5-10 เมตร มีลักษณะเป็นลานกว้างตรงกลาง โดยรอบหลุมขุดเป็นโพรงถ้ำเพื่อใช้เป็นที่พัก มีทางเดินแคบ ๆ เชื่อมต่อแต่ละห้อง และมีบันไดทอดสู่ลานบ้าน  นำท่านชมบ้านหลุมโทรโกลไดท์ (Troglodyte House) ซึ่งสร้างขึ้นโดยชาวเบอร์เบอร์ ชนพื้นเมืองกลุ่มน้อยของแอฟริกาเหนือที่ คนพื้นเมืองที่นี่จะขุดหลุมลึกลงไปใต้พื้นดิน และเว้นเป็นปล่องโล่งตรงกลางไว้เพื่อเป็นพื้นที่ส่วนกลางของทุกคนในครอบครัว จากนั้นจะเจาะห้องแยกออกไปโดยรอบเป็นที่พักอาศัย ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางที่ราบสูงดาฮาร์ (Dahar Highlands) ถือเป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของดินแดนเบอร์เบอร์โบราณที่ยังคงมีให้เห็นในปัจจุบัน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง Tataouine เป็น เมืองทะเลทรายเล็ก ๆ แห่ง ตูนิเซีย ในแถบแอฟริกาเหนือ เป็น “บ้านถ้ำ” ของชนเผ่า Berber ลักษณะที่อยู่อาศัยแบบนี้ ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยและบดบังความเหน็บหนาว ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ดึงดูดใจของหลายผู้สร้างภาพยนตร์

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เมืองสแฟกซ์ (Sfax) เมืองท่าริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สำคัญของตูนิเซีย มีชื่อเสียงด้านการเกษตรกรรมโดยเฉพาะผลไม้ และน้ำมันมะกอก ,การประมง รวมไปถึงแร่บางชนิด ชมย่านเมืองเก่าเมดิน่า และตลาดปลาที่ถือได้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองท่าที่แรกของตูนิเซีย

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Radisson Hotel In SfaX 5*หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองเอล เจม (El Jem) เมืองเล็ก ๆ ทางตะวันออกของประเทศตูนิเซียเป็นอีกเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ นำท่านชมโคลอสเซียม (Amphitheatre) ขนาดใหญ่ที่มีความกว้าง 122 เมตร ยาว 148 เมตร สูง 35 เมตร สามารถจุผู้ชมได้มากกว่า 35,000 คน ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 230 – 238 หรือกลางศตวรรษที่ 3 ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1979 ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดแสดงวงออร์เคสตรา และโอเปรร่าในงานดนตรีคลาสสิกทุกฤดูร้อน

นำท่านเดินทางสู่เมืองฮัมมาเมต (Hammamet) เมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวตูนิเซียริมฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน มีหาดทรายสีขาวละเอียดทอดตัวยาว ทะเลสีฟ้าครามส่งประกายระยิบระยับ มองเห็นเรือประมงสีสดล่องอยู่ลิบๆ อีกทั้งยังมีที่พักหลากระดับ โดยเฉพาะวิลล่าและรีสอร์ตที่นิยมสร้างแบบปูนเปลือยสีขาวสะอาดตา รายล้อมด้วยสวนและพืชพันธุ์โดยเฉพาะต้นแจสมิน (ลักษณะคล้ายพุทธชาดและมะลิ) ดังนั้นจึงมีการนำมาเรียกย่านที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวว่า “แจสมิน ฮัมมาเม็ต” รวมถึงยังมีของที่ระลึกทำจากแจสมินซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปด้วย

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านชมเมดินา (Medina) รอบกำแพงเมืองเก่าด้านนอกนับเป็นจุดที่น่ารื่นรมย์ที่สุดมุมหนึ่งของเมือง สามารถมองเห็นวิวทะเล บ้านเรือนสีขาว แนวกำแพงอิฐ ที่ยิ่งยามบ่ายคล้อยจนกระทั่งอาทิตย์ลับฟ้าจะได้เห็นบรรยากาศเมืองที่ถูกฉาบด้วยสีเหลืองอมส้มงดงามมาก ขณะที่ภายในล้อมกำแพง มีอาคารร้านค้าสีขาว คาเฟ่ ร้านขายสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองท่ามกลางสถาปัตยกรรมท้องถิ่น

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Radisson Ble Hammamet Hotel 5* หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองตูนิส (Tunis) นำท่านชมเมืองเก่าตูนิส (Tunis Old Medina) ย่านเมืองเก่าของตูนิส ที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1979 แวะตลาดท้องถิ่นให้อิสระในการเลือกซื้อสินค้า ที่มีทั้งเครื่องหนัง เสื้อผ้า สินค้าหัตกรรม เครื่องเทศ น้ำหอม ชมวิถีชีวิตของชาวเมืองตูนิเชีย ตามร้านกาแฟริมถนน อย่างเมนูชาสาระแหน่ กาแฟโบราณ การดูดบารากุ การแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์

จากนั้นนำท่านสู่เมืองคาร์เธจ (Carthage) อยู่ห่างจากตูนิสขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 15 กิโลเมตร เป็นเมืองโบราณในยุคกรีกที่สร้างขึ้นโดยชาวฟินิเซียน ด้วยทำเลที่ตั้งบนแหลมบริเวณเวิ้งอ่าวตูนิส ทำให้คาร์เธจ ได้เปรียบในด้านการเดินเรือ และเป็นจุดยุทธศาสตร์การค้าทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สำคัญมาแต่โบราณ ต่อมาเกิดการขัดแย้งกับกรีกและโรมัน จนนำไปสู่สงครามหลายต่อหลายครั้ง แม้เมืองคาร์เธจจะตกเป็นรอง แต่ผู้นำที่โรมันเกรงกลัวที่สุดคือแม่ทัพฮันนิบาล วีรบุรุษแห่งคาร์เธจ ผู้สร้างความระส่ำระสายแก่กองทัพโรมันได้ทุกครั้ง จนกระทั่งในสงครามพิวนิกครั้งที่ 3 คาร์เธจถูกโรมันตีพ่ายเผาทำลายจนแทบไม่เหลือซาก กระนั้นผู้ชุบชีวิตนครคาร์เธจขึ้นอีกครา คือจูเลียส ซีซาร์ แห่งอาณาจักรโรมัน ที่ได้สร้างอาคารสถาปัตยกรรมที่สำคัญอย่างโรงละคร วิลล่า และห้องอาบน้ำ

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินคาร์เธจ เมืองตูนิส

17.15 น.  ออกเดินทางสู่อิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบินที่ TK664

22.10 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)

01.35 น.  ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ TK 68

15.25 น.   เดินทางถึงกรุงเทพ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ